วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

10อันดับสุนัขที่มีราคาแพงที่สุดในโลก



1.ปอมเมอเรเนี่ยน (Pomeranian)
สุนัขในกลุ่ม Toy Group
ปอมเมอเรเนี่ยน มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ขึ้นจากอันดับ 3 ในปีก่อน ด้วยความเล็กกะทัดรัด ขนฟูดูสวยงาม ใบหน้าแหลมเล็ก หลายคนหลงใหลในความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้ 

ลักษณะโดยทั่วไป มีความสูงโดยเฉลี่ยไม่เกินฟุต หรือประมาณ 20 เซนติเมตร หัวกลม ใบหน้ามีส่วนคล้ายสุนัขจิ้งจอก ปากเรียวแหลม ส่วนหัวและใบหน้ามีขนสั้น ตากลมโตและโปนเล็กน้อย หูเล็กเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งตรงและชิดกัน จมูกดำกลม ขนยาวฟูฟ่องทั่วลำตัว ขนสีดำ โกโก้ แดง ส้ม ขาว เหลือง บางตัวมีหลายสีปนกัน ขนทั้งตัวจะปกคลุมด้วยขนยาว ดก ฝ่าเท้านิ่ม ขนหางเป็นพวงโค้งเป็นวงกลมออกด้านข้าง 

นอกจากความเล็กน่ารักแล้ว ความฉลาด ซื่อตรงและร่าเริง ปฏิภาณไหวพริบดี และขี้ประจบของปอมเมอเรเนี่ยน ยังเป็นจุดเด่นที่ทำให้เจ้าของต่างหลงใหล แต่ขณะเดียวกันความเล็กของสุนัขพันธุ์นี้จึงมักมีผลต่อการขยายพันธุ์ที่ค่อนข้างลำบาก ให้ลูกน้อย 

ราคาจำหน่าย ระดับเลี้ยงเล่น 8,000-20,000 บาท ระดับประกวด 20,000 บาท ขึ้นไป  
 2. โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)สุนัขในกลุ่ม Sporting Group

โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มามากกว่า 200 ปี ในอเมริกา เป็นสุนัขขนาดกลาง ตัวผู้สูงราว 23-24 นิ้ว หนักประมาณ 64-70 ปอนด์ ตัวเมีย สูง 21-23 นิ้ว น้ำหนัก 60-70 ปอนด์ มีสีหลายระดับสี มักจะเป็นสีออกครีมถึงสีเหลืองทอง จนถึงกึ่งเข้มแดงมะฮอกกานี เป็นสุนัขที่มีลักษณะหัวกว้าง และมีช่วงปากที่แข็งแรง ตาสีน้ำตาล หูค่อนข้างใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยม ปรกลงมาด้านข้าง มีขน 2 แบบ คือเรียบกับเป็นลอน ขาหน้าตรงแข็งแรง เท้ากลมคล้ายเท้าแมว ลักษณะหางชี้ตรงระดับเดียวกับหลัง ขนบริเวณหางจะยาวและหนา 

นอกจากความสวยของขนที่มันวาว สวยงาม ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับความนิยมมาก โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ยังได้รับสมญานามว่า "หมาใจดี" บ่อยครั้งที่ภาพความผูกพันระหว่างเจ้าตูบโกลเด้น กับเด็กๆ มักมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นั่นเพราะมีลักษณะนิสัยเป็นมิตร และสุภาพเป็นเลิศ ใจดี ซื่อสัตย์ มีความสามารถพิเศษในการจดจำ ง่ายต่อการฝึกฝน กระฉับกระเฉง และคาบสิ่งของได้ดี ในอดีตจึงมักใช้งานเพื่อหานกที่ถูกยิงตกนำมาให้เจ้าของ

โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ เคยเป็นสุนัขยอดนิยม มีผู้เข้าขอจดทะเบียนมากเป็นอันดับ 1 ในปีก่อน แต่ปีล่าสุดนี้กลับถูกสุนัขพันธุ์เล็กแซงหน้าไปเสียแล้ว

ราคาจำหน่ายปัจจุบัน สุนัขระดับประกวด ประมาณ 15,000 บาท ขึ้นไป สุนัขเลี้ยงเล่น 6,000 - 15,000 บาท ระดับทั่วไป หรือสุนัขบ้าน เริ่มต้นที่ 3,000 บาท

  
3. ชิสุ (Shih Tsu)
สุนัขในกลุ่ม Toy Group

ชิสุ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน ได้ชื่อว่า "สุนัขพันธุ์ราชสีห์" เพราะมีขนแผงคอเหมือนสิงโต อีกทั้งท่าทางการเดินหรือเคลื่อนไหวที่สง่างาม เดินตรงเชิดหน้าคอเหยียดและมีพวงหางขนยาวจะปกคลุมลงบนหลังชัดเจน ในอดีตจึงเป็นสุนัขที่เลี้ยงกันในราชสำนักของจักรพรรดิ นับเป็นสิ่งสูงค่าสำหรับสามัญชน เป็นสุนัขที่มีชนชั้น

ชิสุ เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักไม่เกิน 18 ปอนด์ สูงประมาณ 9 -10.5 นิ้ว รูปร่างเล็กแต่มีขนยาว เป็นขนสองชั้น หนา ยาวตรงหรือเป็นคลื่นเล็กน้อยปกคลุมลำตัว ขนบนหัวควรผูกรวบให้เรียบร้อย ป้องกันดวงตา ขนที่ก้นและเท้าต้องตัดให้เรียบร้อยเช่นกันเพื่อความสะอาด สุนัขพันธุ์นี้ต้องการการแปรงขนทุกวัน ผู้เลี้ยงต้องมีเวลาในการแปรงขนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง

ลักษณะของชิสุที่ดี ควรมีลักษณะขนยาว ไม่ม้วนหยิก สีของขนเป็นสีผสมกันของสีดำ น้ำตาล ขาว มีสีขาวเป็นสีพื้น ส่วนกะโหลกกว้างอย่างสมดุล ตากลมโต นัยน์ตาสีดำ หรือจะเป็นสีน้ำตาลสีตับ แววตาร่าเริงแจ่มใสและเป็นมิตรต่อทุกสิ่ง ส่วนปากสั้นยาวไม่เกิน 1 นิ้ว และไม่มีรอยย่นของผิวหนังรอบปาก ปากไม่แหลม คางไม่ยื่น คอควรตั้งตรงยาวได้เซ็นเซอร์-->-->ส่วนกับลำตัว ลักษณะลำตัวของชิสุต้องมีความยาวของลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย อกใหญ่ ลึก หางจะต้องโค้งตั้งขึ้นมาบนหลัง ไม่ห้อยลง มีขนขึ้นเป็นพวงสวยงาม

แม้ ชิสุ จะเป็นสุนัขขนาดเล็ก แต่ก็ได้ชื่อว่า "เล็กแต่อึด" หากมีสุขภาพดีจะเป็นสัตว์ที่มีความทรหดอดทนสูง มีความแข็งแรงดุจสุนัขใช้งาน แต่ข้อดีของสุนัขพันธุ์ชิสุที่สร้างเสน่ห์อย่างดีก็คือ ฉลาด เป็นมิตร มีเสน่ห์ ไม่ดุร้าย ไม่เจ้าอารมณ์ เหมาะสมกับบ้านทุกชนิด 

จากสิถิติที่ผ่านมา ชิสุ เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุอาจเพราะปัจจุบันผู้นิยมเลี้ยงสุนัขมีที่อยู่อาศัยที่เล็กลง ส่งผลให้สุนัขพันธุ์เล็กเพิ่มจำนวนมากขึ้นไปด้วย และด้วยการขยายพันธุ์ที่ง่ายกว่า ชิสุจึงมาแรงแซงสุนัขพันธุ์เล็กพันธุ์อื่น รวมถึงลักษณะขนและหน้าตาสร้างความเพลิดเพลินในการเลี้ยงดูของเจ้าของที่ชอบแต่งตัวให้สุนัข แต่คงไม่เหมาะนักสำหรับเจ้าของที่ไม่มีเวลา

ราคาจำหน่าย ระดับประกวด 15,000 บาท ขึ้นไป ระดับเลี้ยงเล่น 3,500-15,000 บาท ทั่วไป เริ่มต้นที่ 2,500 บาท

5.ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)จัดอยู่ในกลุ่ม Working Group

สุนัขลากเลื่อนที่มีท่วงท่าสง่างาม มีถิ่นกำเนิดจากเอเชียตอนเหนือ มีความอดทนแข็งแรงดีเลิศ อดีตเป็นสุนัขใช้งานลากเลื่อนในเมืองหนาว นับเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่ง ใจดี ไม่ก้าวร้าว

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่มีขนสองชั้น สีพื้นเป็นสีน้ำตาล ดำ เทา แต่ใบหน้าต้องมีสีขาวเท่านั้น ขอบตาเป็นสีดำ ขนสั้นตรงฟู แน่น หัวมีขนาดปานกลาง ดูสมส่วนกับขนาดลำตัว ใบหูตั้งตรง รูปตาเรียว หางฟูพอง มักจะโค้งเป็นพวงขึ้น บนหลังคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก ต้องการออกกำลังกายเป็นหลัก

จุดเด่นของสุนัขพันธุ์นี้คือ มีความอดทนสูงมาก ทำงานได้ดังหุ่นยนต์ รักเจ้านาย ครอบครัว หรือแม้แต่สุนัขด้วยกันเอง สามารถปรับตัวให้เข้าได้กับสภาพอากาศ วิ่งเร็วมาก สามารถเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดี แต่มักทำตัวเป็นจ่าฝูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เลี้ยงที่มีความกระฉับกระเฉง

ราคาจำหน่าย ระดับเลี้ยงเล่นทั่วไป ประมาณ 8,000-15,000 บาท ระดับประกวด 15,000 บาท ขึ้นไป


6. ร็อตต์ไวเลอร์ (Rottweller)
สุนัขในกลุ่ม Working Group

สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี มีสีดำ มีแต้มด่างสีน้ำตาลเด่นชัด บริเวณขอบตา ปาก หน้าอก ขาท่อนล่าง และใต้ฐานของหาง ขนสั้น เป็นสุนัขที่มีกล้ามเนื้อชัดเจน ดูสมส่วน ใบหูปรก นิยมตัดหางให้สั้น

สุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ ที่ตกเป็นข่าวบ่อยครั้งด้วยความดุร้าย ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่มาจากสัญชาตญาณสัตว์ที่ต้องเอาตัวรอดตั้งแต่อดีต มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในฐานะสุนัขนักล่าและสุนัขเฝ้ายาม แต่ร็อตต์ไวเลอร์ในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์จนได้ชื่อว่าเป็นสุนัขที่มีความฉลาด ชอบการสัมผัสอย่างทะนุถนอม และสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับการฝึกฝนที่ดี จะเป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่ง ใจเย็น เป็นทั้งเพื่อนและยามที่ดีของครอบครัว

ด้วยลักษณะภายนอก ความแข็งแรง ความฉลาดของสุนัขพันธุ์นี้ เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงปศุสัตว์ เพราะมีพื้นที่ให้สุนัขออกกำลังกายได้มากกว่า แต่ก่อนเลือกซื้อ ผู้เลี้ยงควรตัดสินใจให้รอบคอบก่อนว่าเหมาะกับตนหรือไม่ ศึกษาสายพันธุ์ที่ดีเพราะอาจกลายเป็นสุนัขที่ก้าวร้าวเกินควบคุม 

ราคาจำหน่ายลูกสุนัข ระดับประกวด 10,000 บาท ขึ้นไป ระดับเลี้ยงเล่น 4,000-10,000 บาท

7.บูลล์ด็อก (Bulldog)สุนัขในกลุ่ม Non - Sporting Group

เห็นรูปร่างตันๆ กำยำ ดูแข็งแรงอย่างนี้ แต่เป็นที่โปรดปรานของผู้เลี้ยงสุนัขพอสมควร มีถิ่นกำเนิดจากประเทศกรีก ในอดีตเป็นสุนัขที่ใช้ต่อสู้กับวัวซึ่งถือเป็นกีฬาชนิดหนึ่งในสมัยนั้น แต่ต่อมากีฬาสู้วัวถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงเกิดการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีเลือดนักสู้ลดลง จนกลายเป็นสุนัขที่กล้าหาญแต่วางใจได้ ไม่ดุร้ายเหมือนรูปร่าง 

บูลล์ด็อก มีน้ำหนัก 25 กิโลกรัม สูงเต็มที่เพียงฟุตเศษ ลักษณะเด่นคือหัวกลม มีปากและบริเวณใบหน้าย่น ห้อย ขนเกรียนสั้นตรงและเรียบ นิ้วเท้าเวลายืนเหมือนยกขึ้น ขาหน้าตรง เวลายืนแล้วจะกางออกเล็กน้อย หางสั้น โดยมากจะเป็นสีเดียวทั้งตัว แต่มีสีดำที่ใบหน้า ปาก หน้าอก แต่ตอนนี้นิยมสีน้ำตาลลูกวัว ผู้เลี้ยงอาจต้องทำใจไว้ด้วยว่า ตัดสินใจเลี้ยงสุนัขที่นอนกรน และต้องระวังเรื่องอากาศร้อนเป็นพิเศษ

ราคาจำหน่ายระดับสุนัขเลี้ยงทั่วไป เริ่มต้นที่ 10,000 บาท หากเป็นบูลล์ด็อกระดับประกวด 15,000 บาท ขึ้น


 8. ยอร์กไชร์เทอร์เรีย(Yorkshire Terrier)สุนัขในกลุ่ม Toy Group

สุนัขตัวน้อย ขนยาว เส้นบาง มันวาวสลวย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ถือว่าเป็นสุนัขสวยงามมาก เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตชีวา รักเจ้าของ ขี้ประจบ สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตสังคมเล็กๆ เช่นในอพาร์ตเม้นต์ได้ดี

ลักษณะทั่วไป สี มี 2 สีบนตัว สีน้ำตาลทองจะมีอยู่บนใบหน้า อก ท้อง และบริเวณปลายเท้า เส้นขนจะมีสีดำน้ำเงินที่โคนไล่ลงมาถึงตอนกลาง และจะมีสีน้ำตาลทองที่ส่วนปลายหัว ขนข้างจะมีขนาดเล็ก และเรียบไม่นูนกลม ปากแหลมยาวสมส่วน จมูกจะมีสีดำสนิท หูตั้งเป็นรูปตัววี มีขนสั้นๆ สีทองปกคลุม ขนยาวตรงปกคลุมทั้งตัว เท้าค่อนข้างกลมมีเล็บเท้าสีดำ ขาหน้าจะเหยียดตรง ขาหลังมองจากด้านข้างจะโค้งลงที่เข่าเล็กน้อย หางตัดสั้น 

สุนัขพันธุ์นี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องดูแลเรื่องขนเป็นพิเศษ เป็นสุนัขที่ให้ลูกยาก

ราคาจำหน่าย ระดับเลี้ยงเล่นทั่วไป ประมาณ 8,000 - 20,000 บาท มากกว่านั้นเป็นสุนัขในระดับประกวด


  9.บีเกิ้ล (Beagle)สุนัขในกลุ่ม Hound Group

สุนัขล่ากระต่ายในอดีต มีหูที่ยาวปรกลง มีทั้งพันธุ์ธรรมดา มีความสูงประมาณ 13-15 นิ้ว หนัก 18-20 ปอนด์ และพันธุ์อลิซาเบธ บีเกิ้ล (Elisabeth beagle) มีความสูงไม่เกิน 12 นิ้ว มีน้ำหนักไม่เกิน 20 ปอนด์

บีเกิ้ล มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ เป็นสุนัขรักสันติ รักเด็ก ไม่เพียงเป็นสุนัขล่าสัตว์อย่างกระต่ายในอดีต ในหลายร้อยปีก่อนบีเกิ้ลยังถูกนายพรานควบคุมเป็นฝูง เพื่อนำไปล่าหมาป่า กวาง แต่ในระยะหลังใช้บีเกิ้ลเป็นสุนัขคาบนกที่เจ้าของล่าได้ เนื่องจากบีเกิ้ลสืบสายพันธุ์มาจากสุนัขดมกลิ่น ประสาทในการรับกลิ่นดีเยี่ยม

แต่สำหรับผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ คงไม่ดีแน่หากหวังจะใช้เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เพราะความเป็นสุนัขสังคม ไม่ชอบยึดอยู่กับสิ่งใดเพียงสิ่งเดียว อาจทำให้บีเกิ้ลหงุดหงิดได้ง่าย บีเกิ้ลจึงเหมาะที่จะเลี้ยงไว้เพื่อสร้างมิตรภาพกับบุลคลในครอบครัวมากกว่า

ลักษณะทั่วไปของบีเกิ้ล มักมีขนสามสีบนตัว คือ สีขาว สีดำ และน้ำตาล สีที่อกโดยมากเป็นสีขาว ส่วนสีดำกับสีน้ำตาลนั้นจะอยู่บนลำตัว และแผ่นหลังด้านใต้ท้องก็จะเป็นสีขาวเช่นกัน หน้าผากจะตั้งชัดเจน ใบหูยาวปรกลง ขนสั้นตรง หางยาวปานกลาง ค่อนข้างตรงชี้ขึ้น ขนาดกะทัดรัด รูปร่างแข็งแรง

ราคาจำหน่าย ระดับประกวด 15,000 บาท ขึ้นไป ระดับเลี้ยงเล่น ประมาณ 10,000-15,000 บาท 
 
 10. ชิ วา วา (พันธุ์ขนเรียบ),(Chihuahua smooth coat)สุนัขในกลุ่ม Toy Group

ยังคงครองอันดับ 10 อย่างอยู่ตัว ตั้งแต่ ปี 2545 เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก ขนาดพกพา ตาโต ถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก อดีตเป็นสัตว์ที่เป็นอาหารและถูกบูชายัญ มีสองสายพันธุ์คือ พันธุ์ขนเรียบและพันธุ์ขนยาว 

ชิ วา วา มีความสูงไม่เกิน 5 นิ้ว มีน้ำหนักเฉลี่ย 0.9 - 2.7 กิโลกรัม จัดว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลก มีทั้งสีขาว สีน้ำตาลอ่อน สีทราย สีดำ อาจมีสีเดียวอย่างแดงน้ำตาล ทอง หรือสลับขาวน้ำตาล หัว หน้าผากต้องกลมโค้งเป็นรูปแอปเปิ้ล หูตั้ง ปากสั้นแหลม ขนสั้น ถ้าเป็นพันธุ์ขนยาวจะไม่หยิกม้วน

สุนัขพันธุ์นี้หลายคนต่างหลงใหลเพราะเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ มีเสน่ห์ ขี้ประจบ เป็นสุนัขเฝ้าระวัง เตือนภัยได้ดี เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก แต่ไม่ชอบอากาศเย็น

10 อันดับสายพันธุ์สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก



10.australian cattle
     ออสเตรเลียน แคทเทิล ด็อก หรือ ออสเตรเลียน ควีนแลนด์ เป็นสุนัขที่ได้ชื่อว่า อายุยืนที่สุดในโลก ( มากที่สุด 29 ปี )
และเป็นสุนัขที่มีความกล้าหาญ มุ่งมั่น แต่เดิมใช้ต้อนฝูงโค สามารถคุมฝูงโคได้ดี โดยไม่ต้องส่งเสียงเห่าหรือวิ่งพล่านรอบตัวโค
เป็นสุนัขที่มีสายพันธุ์เกี่ยวเนื่องกับ สุนัขดิงโก มีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800
ลักษณะประจำพันธุ์สุนัขพันธุ์นี้ จะมีใบหูใหญ่ทรงสามเหลี่ยมตั้งขึ้น ช่วงลำคอหนา ตลอดทั้งลำตัว โดยเฉพาะส่วนหัว
จะมีขนสีขาวๆขึ้นแซมประปราย หางยาวไม่ถึงข้อขา ลักษณะหางจะตกโค้งเล็กน้อย

      
9. rottweiler
     สุนัขพันธุ์นี้ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่ามีถิ่น กำเนิดอยู่ที่ใดเป็นสุนัขที่มีประวัติเก่าแก่ พันธุ์หนึ่งในสมัยโรมัน
เมื่อชาวโรมันยกทัพไปรุกรานชาติอื่น มักจะเดินทางรอนแรมนับเดือน และจะต้องเตรียมสเบียงอาหารไปด้วย
โดยการพาฝูงสัตว์ติดไปด้วย ในสมัยนั้น ชาวโรมันนิยมใช้สุนัขพันธุ์ ROTTWEILER ช่วยต้อนฝูงสัตว์
และเป็นสุนัขเฝ้ายามในเวลากลางคืน ชื่อ ROTTWEILER ได้มาจากชื่อเมือง ROTTWELL ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าสัตว์
ในสมัยศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันนิยม นำสุนัขพันธุ์นี้มาใช้ในกิจกรรมของกรมตำรวจ ทหาร ตลอดจนเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านด้วย
    
8. papillon
     คำว่า PAPILLON อ่านว่า ปา-ปิ-ยอง เป็นคำ ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงผีเสื้อ สุนัขพันธุ์นี้ เป็นสุนัข SPANIEL
ที่มีขนาดเล็กกว่า SPANIEL ขนาดธรรมดามาก นิยมเลี้ยง กันอย่างแพร่หลาย ในคริสตศตวรรษที่ 16
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่สตรีผู้สูงศักดิ์ เช่น MADAME POMPADOUR และ MARIE ANTOINETTE ในสมัยนั้น
มีการค้าขายสุนัขพันธุ์ นี้กันอย่างกว้างขวางโดยมี SPAIN เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด ส่วนหูของ PAPILLON มีลักษณะ
คล้ายผีเสื้อ
   
7. Labrador Retriever
     ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ นิสัยเป็นมิตร ฉลาด และตอบสนองคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว เป็นสุนัขที่มีหางต่างจาก
สุนัขพันธุ์รีทรีฟเวอร์ทั่วไป คือ มีโคนหางใหญ่หนาและเรียวไล่ลงจนถึงปลายหางโดยไม่มีพู่หาง
แต่เดิมใช้เพื่อช่วยงานชาวประมงลากอวนเข้าฝั่ง ต่อมาได้ถูกพัฒนาความสามารถให้เป็นสุนัขนำทางคนตาบอด
และตรวจค้นยาเสพติด,วัตถุระเบิด สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในนิวฟาวนด์แลนด์ ประเทศแคนาดา กำเนิดในราว ค.ศ. 1800
  
6. shetland sheepdog
     อาจจะสืบเชื้อสายมากจาก Rough Collies ซึ่งถูกนำไปที่เกาะ Scottish Island ของ Shetland และผสมข้ามสายพันธุ์กับ
Icelandie Yakkin สุนัขเกาะตัวเล็ก (ปัจจุบันไม่ได้รับการยอมรับต่อไป) โดยนำไปบนเรือของชาวประมง ใน ค.ศ.1700
สายพันธุ์ได้รับการพัฒนาจนสมบูรณ์เป็นเวลาร่วมศตวรรษที่สุนัขเล็กเหล่านี้ถูกให้ต้อนแก ะและอารักขาฝูงแกะของ Shetland
เกาะที่มีพายุแยกออกไปจากชายฝั่งทะเลที่ซึ่งสัตว์จำน วนมากมายค่อนข้างเล็กน้อยด้านความสูง ความประณีตของการผสม
ได้มักเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ในศตวรรษที่ 20 ภายหลัง Shetland ถูกส่งออกไป Scotland ซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ของประเทศอังกฤษ
และประเทศไกลโพ้น Sheltie ตัวเล็กเหล่านี้ เป็นสุนัขอ่อนโยนมากเมื่อต้อนปศุสัตว์ตัวเล็ก เป็นหนึ่งของสายพันธุ์ที่แข่งขันการเชื่อฟัง
ได้ยอดเยี่ยม Sheltie เป็นสุนัขทำงานที่สง่างามและตั้งใจ พวกเขาได้รับการยอมรับครั้งแรกในประเทศอังกฤษใน ค.ศ.1909
และจดทะเบียนครั้งแรกในอเมริกาใน ค.ศ.1911 เพราะนิสัยที่ใจดี ทุกวันนี้กลายเป็นหนึ่งของสุนัขที่เป็นเพื่อนซึ่งได้
รับความนิยมมากที่สุด ความสามารถพิเศษของ Sheltie ได้แก่ การตามรอย ต้อนสัตว์ เฝ้าบ้าน อารักขา ฉลาดเฉลียว
แข่งขันการเชื่อฟังและเล่นกล
     
5. doberman pinscher
     นี่คือสายพันธุ์ที่มีจุดกำเนิดเมื่อไม่นานมานี้ เขาถูกพัฒนาใน ค.ศ.1860 พอสันนิษฐานได้ว่าเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง
German Pinschers กับ Rottweilers, Beauceron Pinschers} Greyhounds และ English Greyhound เพื่อสร้าง
Doberman Pinscher ที่ผอมและมีสติปัญญาสูง ผู้ให้กำเนิดของการผสมข้ามพันธุ์คือคนเก็บภาษีชาวเยอ รมันชื่อ Louis Doberman
ซึ่งได้เดินทางผ่านพื้นที่ที่มีโจรรังควาญบ่อยๆเลยตั ดสินใจที่จะสร้างสุนัขเฝ้าบ้านและสุนัขอารักขาซึ่งสา มารถรับมือกับทุกสถานการณ์
ซึ่งอาจเกิดขึ้น มีการอ้างอิงชื่อผู้ให้กำเนิดของเขา Doberman ได้รับการนำเสนอครั้งแรกที่สนามโชว์สุนัขใน ค.ศ.1876
ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทันที
   
4. golden retriever
     โกลเดน รีทรีฟเวอร์ ,รีทรีฟเวอร์ขนสีเหลือง หรือ รัสเซียน รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่ตื่นตัว และตอบสนองคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว
แต่เดิมใช้งานเพื่อหานกที่ถูกยิงตกนำมาให้เจ้าของ เนื่องจากมีสีขนสวยงามจึงทำให้ได้รับความนิยมมาก สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิด
ในประเทศอังกฤษ ว่ากันว่าพัฒนามาจากสุนัขในคณะละครสัตว์ของชาวรัสเซี ย กำเนิดราว ค.ศ. 1800 แต่เดิมมีชื่อว่า
สุนัขพันธุ์ขนเรียบทอง จนในปี ค.ศ. 1900 ได้ถูกตั้งชื่อให้ว่า โกลเดนรีทรีฟเวอร์ ลักษณะประจำพันธุ์
สุนัขพันธุ์นี้จะมีลักษณะหัวกว้างและมีช่วงปากที่แข็ งแรง ตาสีน้ำตาล หูค่อนข้างใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยม ปรกลงมาด้านข้าง
มีขน2แบบคือ เรียบกับเป็นลอน ขาหน้าตรงแข็งแรง เท้ากลมคล้ายเท้าแมว ลักษณะหางชี้ตรงระดับเดียวกับหลัง
ขนบริเวณหางจะยาวและหนา
   
3. german shepherd
     เยอรมัน เชพเพิร์ด หรือ ดอยต์เชอ เชฟเฟอร์ฮุนด์ หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกกัน คือ อัลเซเซียน นั่นเอง สุนัขพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสุนัขที่คน
นิยมเลี้ยงกันมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีความฉลาด สอนง่าย และกระตือรือร้นตลอดเวลา แต่เดิมคนใช้สุนัขพันธุ์นี้ไว้ต้อนแกะ
แต่ปัจจุบันได้นำมาพัฒนาเพื่อใช้งานหลายด้าน เนื่องจากฉลาดในการรับรู้สิ่งต่างๆ เป็นสุนัขที่มีมีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศเยอรมัน
เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800 ลักษณะประจำพันธุ์ สุนัขพันธุ์นี้มีลำตัวค่อนข้างยาว มีช่วงปากที่ยาวเกินครึ่งของความยาวใบหน้า
ลักษณะหูตั้ง ปลายหูเรียวเล็ก บริเวณใบหน้า ลงมาถึงจมูก จะมีสีขนที่เข้ม ขาหลังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ลักษณะหางจะตกและมีขนหนา
    
2.poodle
     ในบรรดาพันธุ์สุนัขทั้งหลาย พันธุ์ poodle ที่ถูกเพาะมาอย่างดี ถือเป็นพันธุ์ที่เฉลียวฉลาด และมีความรับผิดชอบสูงที่สุด
poodle ทั้ง 3 ชนิดเป็นสุนัขที่ร่าเริง ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ มีพลังงานเหลือล้น มีสเน่ห์ และต้องการเป็นที่พอใจของเจ้าของ
ตลอดเวลาี่เมื่อเลี้ ยงแล้ว เค้าจะมีความผูกพันธุ์สูงมากกับเจ้าของ เรียกได้ว่า รักถวายชีวิตทีเดียว ดังนั้น การเลี้ยงเค้าไม่ได้ตลอดไป
หรือต้องให้เค้าไปอยู่กับผู้อื่นเมื่อเค้าโตขึ้น จะเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเค้ามาก และอาจนำพา มาสู่พฤติกรรมที่ผิดปกติได้
เค้าจะชอบที่จะทำงานมีส่วนร่วมกับเจ้าของ และเข้ากันได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่น Minature และ Toy Poodle จะเข้ากันกับคนแปลกหน้า
และเด็กได้ดีกว่า Standard Poodle แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะของการกัดคนแปลกหน้ามักพบใน Minature และ Toy ได้มากกว่า
     
1.border collie
     เป็นสุนัขเลี้ยงแกะ ที่มีความสามารถมาก มีความสามารถขนาดไหน ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึง ภาพยนตร์เรื่อง Babe
สุนัขที่สอนหมูให้ต้อนฝูงแกะไง... นั่นแหละบอร์เดอร์ คอลลี นอกจากนี้ บอร์เดอร์ คอลลี ยังถูกใช้เป็นสุนัขตามหา
คนที่หลงทางในภูเขา และนำทางคนตาบอดอีกด้วย  ต้นกำเนิดของบอร์เดอร์ คอลลีมาจากสก็อตแลนด์ เช่นเดียวกับคอลลีพันธุ์อื่นๆ
ความสามารถพิเศษของบอร์เดอร์ คอลลี คือ การทำงานได้อย่างเงียบเชียบ นุ่มนวล มันมักจะคืบคลาน หัวและหางเรี่ยอยู่ระดับพื้นดิน
ใช้สายตาจ้องมองฝูงสัตว์ พร้อมจะกระโจนไล่ต้อนฝูงสัตว์ หากได้รับคำสั่งจากเจ้านาย จากลักษณะดังกล่าวนี้เอง จึงคาดกันว่า
บอร์เดอร์ คอลลี น่าจะเกิดจากการผสม ข้ามพันธุ์ระหว่างคอลลี กับเซตเตอร์ หรือพอยเตอร์ หรือสเปเนี่ยน
สุนัขพันธุ์นี้ถูกใช้เป็นสุนัขต้อนฝูงแกะมานาน โดยเฉพาะบริเวณชายแดนระหว่างอังกฤษ กับสก็อตแลนด์ จนเป็นที่มาของชื่อ
บอร์เดอร์ คอลลี แต่มาตรฐาน ของสุนัขพันธุ์นี้ เพิ่งเป็นที่ยอมรับของสมาคมผู้ เลี้ยงสุนัข แห่งอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1976

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวโรแมนติกที่สุดในโลก


นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่คู่รัก จะต้องแสดงออกถึงความรักระหว่างกันและกัน การแสดงออก ในเรื่อความรัก หมายถึง การทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกประทับใจ รู้สึกดี รู้สึกผูกพัน รู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตร่วมกัน อย่างเกิดประโยชน์มากขึ้น วิธีแสดงออกถึงความรัก ที่เป็นที่นิยมอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การได้ใช้เวลาไปท่องเที่ยวพักผ่อนด้วยกันในสถานที่สวย ๆ เพื่อเพิ่มความโรแมนติก และกระชับสายสัมพันธ์ ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นไปอีก
ต่อไปนี้คือ 10 อันดับสถานที่ ที่ถูกจัดว่า มีความโรแมนติกมากที่สุดในโลก ซึ่งน่าจะหาโอกาสพาคนรัก ไปเยี่ยมชม สักครั้งหนึ่งในชีวิต
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 10. Colmar ประเทศฝรั่งเศส เมือง Colmar ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รัก มักจะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมือง Colmar ก็คือ ไร่องุ่นจำนวนมาก เคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม และบรรยากาศ ที่สวยงาม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมือง Colmar เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝัน
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 9. Paris ประเทศฝรั่งเศส เมืองปารีส มีสมญานามว่า “สวรรค์แห่งความโรแมนติก” (Heaven of Romantic) ดังที่ สถานที่แห่งนี้ เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่คุณและคนรัก จะสารภาพ “รักนิรันดร์” ระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมืองปารีส อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ Le Louvre (พิพิธภัณฑ์ ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก) หอไอเฟล ,โรงแรม Disney Land Resort ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Centre Pompidou และสถานที่สวยงามอื่น ๆ อีกมากมาย การไปเที่ยว กับคนรักที่ปารีส หากจัดสรรเวลาให้ดีก็จะคุ้มค่ามาก และสถานที่แห่งนี้จะเก็บความโรแมนติก อยู่ในใจของคุณไปอีกนานแสนนาน
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 8.Venice ประเทศอิตาลี หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่จะเอ่ยกับคนรักว่า เขาหรือเธอ เป็นคนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต Venice ก็คือ คำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ! เมือง Venice มีชื่อเสียงโด่งดังในด้าน สุดยอดสถาปัตยกรรม และยังมีหลายสถานที่โรแมนติก เช่น สะพานเก่าแก่ Ponte dei Sospiri, จตุรัส Piazza San Marco ที่ได้รับสมณานามว่า “ห้องจิตรกรรมของยุโรป” (The - drawing room of Europe) และคลองในตัวเมือง “Canale Grande” ทั้งหมดนี้จะสร้าง ความโรแมนติก ระดับหรูหรา ให้กับคนรักและตัวคุณ
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 7. Schloss Neuschwanstein ประเทศเยอรมันนี สถานที่ที่ผสมผสาน ความสวยงามตามธรรมชาติ เข้ากับจินตนาการ และความสร้างสรรค์ของมนุษย์ ได้อย่างลงตัว เมือง SchlossNeuschwanstein มีความสวยงาม ราวกับเป็นสวรรค์บนพื้นโลก รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงาม ปราสาทเก่าแก่อายุ 100 กว่าปี (สร้างปี 1899) ซึ่งเยอรมัน ได้ถูกกล่าวขานว่า เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีปราสาทสวยงามที่สุดในยุโรป
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 6. Vienna ประเทศออสเตรีย เมือง Vienna ในประเทศออสเตรีย เป็นอีกสถานที่ที่มีคู่รักจากทั่วทุกมุมของโลก แวะเวียนมาเยี่ยมชมความสวยงาม สิ่งที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ สุดยอดสถาปัตยกรรม และสุดยอดผลงานเพลงศิลปะ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก พระราชวัง Schoenbrunn, พระราชวัง Belvedere, พระราชวัง The Hofburg Imperial และพิพิธภัณฑ์นักจิตวิทยาผู้โด่งดัง Sigmund Freud
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 5. Monte Carlo ประเทศโมนาโค เมือง Monte Carlo ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่โรแมนติก ที่คุณจะได้สื่อความรัก ไปยังคนรักของคุณ เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ตีนของเทือกเขาแอลป์ และเป็น สถานที่ที่มีเรื่องราวของความรัก ก่อกำเนิดขึ้นมากมาย สิ่งที่น่าสนใจของเมือง Monte Carlo คือบ่อนคาสิโนเลื่องชื่อ (Monte Carlo Casino) พิพิธภัณธ์ทางทะเล, พิพิธภัณฑ์ประจำชาติ และพระราชวัง Prince
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 4. Prague สาธารณรัฐเช็ก อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสถานที่โรแมนติก ก็คือ เมือง Prague ของสาธารณรัฐเช็ก สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย วัฒนธรรม และปราสาทเก่าแก่ ผู้คนที่มีมิตรไมตรี และสุภาพอ่อนโยน เมือง Prague เป็นสถานที่เกิดของนักดนตรีระดับโลก อย่าง Mozart และมีชื่อเสียง ในเรื่องของทางเดินอันสวยงามในเมือง ที่คู่รักสามารถใช้เวลาเดินเล่นด้วยกัน
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 3. New York ประเทศสหรัฐอเมริกา เมือง New York เหมาะสำหรับคู่รัก ที่กำลังมองหาสถานที่ที่จะใช้ ช่วงเวลาแห่งความรัก และความโรแมนติก ในหลากหลายรูปแบบ ร้านอาหาร และร้านค้าจำนวนมาก และสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟ Grand Central Terminal, อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ และสวนหย่อมขนาดใหญ่ Central Park (มีกิจกรรมคอนเสิร์ต, มีลานสเก็ตน้ำแข็ง)
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 2. Cairo ประเทศอียิปต์ เมือง Cario ก็ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นสวรรค์บนโลกเช่นเดียวกัน (โดยเฉพาะสำหรับคู่รัก) ความงดงามและมนต์เสน่ห์ที่อยู่ในตัวเมือง คือแรงดึงดูด ให้คู่รักเดินทางมาใช้เวลาท่องเที่ยวที่นี่ด้วยกัน และปิรามิด ก็คือสิ่งที่พิเศษที่สุด ท่ามกลางความสวยงามในตัวเมือง
ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวโรแมนติก
 อันดับที่ 1. Mauritius Island มหาสมุทรอินเดีย สถานที่แห่งนี้ ได้รับการกล่าวขานว่า “ปลายทางสุดท้าย ที่โรแมนติกมากที่สุด” (Ultimate Romantic Destination) เกาะ Mauritius มีชื่อเสียง อย่างมาก ในหมู่คู่รักที่จะมาท่องเที่ยว หรือคู่รักที่จะมาฮันนีมูน ต้นปาล์มมากมายที่เคลื่อนที่พริ้วไหว ไปตามสายลม บรรยากาศที่สวยงามตามธรรมชาติ แนวหินปะการัง และท้องทะเลสีฟ้า เป็นส่วนหนึ่งในอีกหลาย ๆ สิ่ง ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้สวยงามจนยากที่จะลืมเลือน

10 อันดับที่เที่ยวทั่วไทย

ปางอุ๋ง 
อันดับที่ 1. ปางอุ๋ง 
ตั้งอยู่ใน อ. เมือง จ. แม่ฮ่องสอน
จํานวนผู้เยี่ยมชม 156545 ท่าน
หมู่บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านโครงการพระราชดําริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ในพระบรมราชินูปถัมป์
ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
 
ปาย 
อันดับที่ 2. ปาย 
ตั้งอยู่ใน อ. ปาย จ. แม่ฮ่องสอน
จํานวนผู้เยี่ยมชม 87620 ท่าน
ปาย...อําเภอเล็ก ๆ ในจังหวัด แม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้ง ชาวไทยและต่างประเทศมาเยือน อย่างไม่ขาดสาย ความเงียบสงบ
ลําน้ำปายสายน้อยที่ไหลผ่าน กระต๊อบเล็ก
 
ดอยอ่างขาง 
อันดับที่ 3. ดอยอ่างขาง ( ศูนย์พัฒนา โครงการหลวงอ่างขาง )
ตั้งอยู่ใน อ. ฝาง จ. เชียงใหม่
จํานวนผู้เยี่ยมชม 77742 ท่าน
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ( ดอย อ่างขาง ) เป็นสถานีวิจัยแห่งแรก
ของโครงการหลวง ตั้งอยู่บน เทือกเขาตะนาวศรี ตําบลแม่งอน อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
 
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 
อันดับที่ 4. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
ตั้งอยู่ใน อ. แม่แตง จ. เชียงใหม่
จํานวนผู้เยี่ยมชม 65010 ท่าน
อลังการทะเลหมอก อุทยาน แห่งชาติห้วยน้ําดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท่องที่อําเภอแม่แตง อําเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และอําเภอปาย จังหวัด แม่ฮ่องสอน
 
วนอุทยานภูชี้ฟ้า 
อันดับที่ 5. วนอุทยานภูชี้ฟ้า
ตั้งอยู่ใน อ. เวียงแก่น จ. เชียงราย
จํานวนผู้เยี่ยมชม 63048 ท่าน
วนอุทยานภูชี้ฟ้า - ภูชี้ฟ้า อยู่ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่อิงฝั่ง
ขวาและป่าแม่งาว ท่องที่บ้านร่ม ฟ้าทอง หมู่ที่ 9 และบ้านร่มฟ้า
ไทย
 

ดอยแม่สลอง 
อันดับที่ 6. ดอยแม่สลอง
ตั้งอยู่ใน อ. แม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย
จํานวนผู้เยี่ยมชม 52819 ท่าน
ดอยแม่สลอง เป็นที่ตั้งของ หมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนผู้อพยพจาก กองพล 93 ซึ่งอพยพจากประเทศพม่าเข้ามาในเขตไทย จํานวนสองกองพัน
 
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 
อันดับที่ 7. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ตั้งอยู่ใน อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่
จํานวนผู้เยี่ยมชม 51374 ท่าน
ป่าเมฆสูงสุดแดนสยาม แต่เดิม ดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา คําว่า ดอยหลวง หมายถึง ภูเขาที่มี ขนาดใหญ่
 
วัดร่องขุ่น 
อันดับที่ 8. วัดร่องขุ่น 
ตั้งอยู่ใน อ. เมือง จ. เชียงราย
จํานวนผู้เยี่ยมชม 47068 ท่าน
วัดร่องขุ่น อยู่ที่บ้านร่องขุ่นกม.ที่ 817-818 ทางขวามือ ก่อนจะถึง
ตัวเมือง ๑๒ กม. โดยมีอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชั้น
แนวหน้าของประเทศไทย
 
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 
อันดับที่ 9. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 
ตั้งอยู่ใน อ. ภูกระดึง จ. เลย
จํานวนผู่เยี่ยมชม 46750 ท่าน
วันที่ 18 ม.ค. 48 อุณหภูมิบนยอด เขาอุทยานแห่งชาติภูกระดึงวันนี้
อุณหภูมิต่ําสุด 8.2 องศาเซลเซียล อุณหภูมิสูงสุด 22.5 องศา
เซลเซียล
 
ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ 
อันดับที่ 10. ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ 
ตั้งอยู่ใน อ.ขุนยวม จ. แม่ฮ่องสอน
จํานวนผู้เยี่ยมชม 40780 ท่าน
ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตําบลแม่อูคอ อําเภอขุนยวม
ตามเส้นทางหมายเลข 108 (แม่ฮ่องสอน-ขุนยวม) ก่อนถึงตัว
อําเภอประมาณ 1 กิโลเมตร